Mitr Clinic ซึ่งเป็นศูนย์บริการสุขภาพที่สำคัญสำหรับคนข้ามเพศ (Transgender) ใน 3 เมืองใหญ่ของอินเดีย ต้องปิดตัวลงเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เนื่องจากการระงับเงินทุนจาก USAID (องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ) ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อบริการที่จำเป็นสำหรับชุมชน แต่ว่าหกเดือนต่อมา คลินิกดังกล่าวได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในชื่อ Sabrang Clinic โดยได้รับการสนับสนุนจาก Tata Trusts โดยคลินิกแห่งนี้มุ่งมั่นที่จะ “มอบสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและครอบคลุม ปราศจากอคติและการตีตรา เพื่อให้บุคคลข้ามเพศสามารถเข้าถึงบริการที่หลากหลาย”

Subash Ghosh จากคลินิก Sabrang ให้สัมภาษณ์กับ The Hindu ว่า “เมื่อปัญหา USAID เกิดขึ้น เราก็ต้องยุติการดำเนินงาน แต่เราได้ติดต่อองค์กรการกุศลและบุคคลหลายราย และตอนนี้ Tata Trusts ก็ให้การสนับสนุนเรา”

คลินิกแห่งนี้เปิดตัวครั้งแรกที่เมืองไฮเดอราบาดในปี 2021 ถือเป็นคลินิกแห่งแรกในอินเดียที่ดำเนินการและบริหรโดยสมาชิกในชุมชนข้ามเพศทั้งหมด “ตั้งแต่แพทย์ไปจนถึงผู้จัดการคลินิก ทุกคนมาจากชุมชนนี้ คลินิกให้บริการผู้ป่วยมากกว่า 3,000 คนแล้วนับตั้งแต่เปิดดำเนินการ” Ghosh กล่าวเสริม

รายงานยังระบุถึงความพยายามของ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะตัดงบประมาณของ USAID ซึ่งส่งผลให้องค์กรการกุศล LGBTQ+ ของสหราชอาณาจักรอย่าง Stonewall ต้องปรับโครงสร้างองค์กรและลดจำนวนพนักงาน หนังสือพิมพ์ The Washington Post รายงานว่า USAID ซึ่งมีพนักงาน 10,000 คน ต้องเผชิญกับ “การระงับความช่วยเหลือ การปลดพนักงาน และความสับสน”

อีลอน มัสก์ ได้โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม X/Twitter โดยเรียก USAID ว่าเป็น “รังงูของ… พวกมาร์กซิสต์ที่เกลียดอเมริกา” ในขณะที่ทรัมป์เรียกผู้นำของหน่วยงานนี้ว่า “พวกลัทธิหัวรุนแรงบ้าคลั่ง”

มัสก์ยังทวีตข้อกล่าวหาว่า USAID “ให้ทุนสนับสนุนการวิจัยอาวุธชีวภาพ รวมถึง COVID-19 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปนับล้าน” แม้กระทั่งโฆษกทำเนียบขาว Karoline Leavitt ก็เคยกล่าวหาว่าหน่วยงานนี้ให้ทุนสนับสนุน “โอเปร่าของผู้เปลี่ยนแปลงเพศ” ในโคลอมเบีย

ในความเป็นจริงแล้ว USAID ให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศกำลังพัฒนา โดยมุ่งเน้นไปที่การเติบโตทางเศรษฐกิจ สุขภาพ สิ่งแวดล้อม ประชาธิปไตยและการปกครอง และยังมีบทบาทสำคัญในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ

ภาพ: Mitr Clinic
อ้างอิง: PinkNews