วันที่ 24 มิถุนายน ของทุกปี ไม่ใช่เพียงแค่วันหยุดราชการ แต่คือวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทย นั่นคือ วันเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ซึ่งเป็นหมุดหมายที่สำคัญยิ่งในการเปลี่ยนผ่านจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาสู่ระบอบประชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ เหตุการณ์นี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเปลี่ยนผ่านทางการเมือง แต่ยังคงส่งอิทธิพลต่อสังคมและการเมืองไทยมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อคนรุ่นใหม่ที่มองย้อนกลับไปยังเหตุการณ์นี้เพื่อหาแรงบันดาลใจในการเคลื่อนไหวทางการเมือง
ในปี 2469 รัชกาลที่ 7 พระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรกของสยามให้กับคณะอภิรัฐมนตรี แต่ยังไม่เป็นที่พอใจของกลุ่มปัญญาชนและนักเรียนนอกที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง จนกระทั่งช่วงต้นปี 2475 เมื่อสถานการณ์เศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจสยาม ทำให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ประชาชนและข้าราชการเป็นวงกว้าง
กระทั่งในวันที่ 24 มิถุนายน 2475 คณะราษฎร ซึ่งประกอบด้วยทหารบก ทหารเรือ และพลเรือนที่ได้รับการศึกษาจากต่างประเทศ นำโดยพันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา ได้ทำการยึดอำนาจการปกครอง โดยประกาศแถลงการณ์คณะราษฎร ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองไปสู่ระบอบรัฐธรรมนูญ และในวันที่ 27 มิถุนายน 2475 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานรัฐธรรมนูญชั่วคราว ทำให้สยามมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญ
การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ได้วางรากฐานหลายประการที่มีผลต่อประเทศไทยมาจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดเรื่องรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตยที่ยังคงเป็นหลักการสำคัญที่ถูกอ้างอิงถึงเสมอ แม้จะมีการรัฐประหารและแก้ไขรัฐธรรมนูญมาหลายครั้ง บทบาทของกองทัพในการเมืองที่เข้ามามีบทบาทอย่างเด่นชัดและยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของไทยมาอย่างยาวนาน รวมถึงความขัดแย้งทางอุดมการณ์ระหว่างกลุ่มที่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงและกลุ่มอนุรักษนิยม ที่ยังคงดำรงอยู่และเป็นแกนกลางของความขัดแย้งทางการเมืองไทยในหลายยุคหลายสมัย
นอกจากนี้ เหตุการณ์ 2475 ยังคงเป็นประเด็นที่ถูกตีความและถกเถียงอย่างต่อเนื่องในสังคมไทย โดยเฉพาะในประเด็นเกี่ยวกับบทบาทของบุคคลสำคัญและผลกระทบในระยะยาว
สำหรับคนรุ่นใหม่ เหตุการณ์ 2475 ไม่ได้เป็นเพียงหน้าหนึ่งในตำราเรียน แต่เป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการเคลื่อนไหวทางการเมืองหลายประการ คนรุ่นใหม่มีความเข้าใจในแนวคิดประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานมากขึ้น และรู้สึกว่าตนเองมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางของประเทศได้ การที่คณะราษฎรกล้าลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองที่ดำรงอยู่มานาน เป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่กล้าตั้งคำถามต่อโครงสร้างอำนาจเดิมและเรียกร้องการปฏิรูป พวกเขาใช้แพลตฟอร์มออนไลน์และโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางหลักในการรวมกลุ่ม แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และจัดการชุมนุม คล้ายกับการรวมตัวกันอย่างลับๆ ของคณะราษฎร
รวมถึงการที่คนรุ่นใหม่ยังเชื่อมโยงเหตุการณ์ 2475 เข้ากับการเรียกร้องความเท่าเทียมทางสังคมและเศรษฐกิจ รวมถึงการเคลื่อนไหวต่างๆ ให้สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตยสมัยใหม่ และแม้จะเผชิญกับข้อจำกัดและอุปสรรค แต่จิตวิญญาณของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในวันที่ 24 มิถุนายน 2475 ยังคงเป็นแรงผลักดันให้คนรุ่นใหม่ไม่ย่อท้อที่จะแสดงออกถึงจุดยืนและความต้องการของตนเอง เพื่อสร้างอนาคตที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
24 มิถุนายน 2475 จึงเป็นวันที่เตือนใจให้เราไม่ลืมว่าการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งสำคัญได้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในประวัติศาสตร์ไทย และยังคงเป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับทุกภาคส่วนในการร่วมกันสร้างสรรค์ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต